love

Thursday, December 08, 2005

รัก..



มีใครสักคน กล่าวว่า
" หากจะรักใครสักคน ต้องทนเจ็บ "
ฉันคงอ่อนแอเกินกว่าที่จะอดทนต่อความจริงอันแสนเจ็บปวดได้
หนทางที่ฉันเลือก คือ..ก้าวเดินไปจากเธอ
เพื่อรักษาจิตใจของฉัน
มิให้ถูกโบยกระหน่ำด้วยแส้แห่งความรู้สึก
หวังสักวัน..ฉันคง เข้มแข็งมากกว่านี้

จันทร์..แจ่ม..ใจ



ค่ำคืน..พระจันทร์สวย
เธอเคยบอกให้เรา..มองความงดงามของพระจันทร์บนฟากฟ้าด้วยกัน
เรา...คิดถึงกัน เราพูดคุยกัน
แม้กายจะอยู่ห่างกันแค่ไหน ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นใจในรักที่มีต่อกัน
มาวันนี้...
ฉันนั่งมองจันทร์...แต่เพียงดายเดียว

ดอกหญ้า..ยอดรัก



" ยามไร้...เด็ดดอกหญ้า..แซมผม "
เขา...เห็นเป็นเพียงดอกหญ้าไร้ค่าดอกหนึ่ง ยามเมื่อเขาอ้างว้าง ไม่มีใคร
แล้ววันหนึ่ง...
เมื่อดอกไม้ดอกใหม่ได้ผ่านเข้ามาในสายตา
ดอกหญ้าดอกนี้ ก็ถูกขว้างทิ้งไป..อย่างไม่สนใจใยดี
...เจ็บนัก...กับสิ่งที่เขามอบให้
แต่ก็ขอบคุณ...ทุกสิ่งที่สอนให้ฉันเรียนรู้วิธีทำใจ..จนกว่าใจจะชิน...

ขอบฟ้าไม่มีจริง



หากย้อนไปมองดู เมื่อครั้งวันวาน
และมองชีวิตวันนั้นเป็นนกตัวหนึ่ึง ที่เริ่มบิน
เพียงอยากไปเจอขอบฟ้า มุ่งตรงไปตามที่เห็น
แม้ยากเย็น ยังไงเพียงไหนไม่หวั่น

ขอบฟ้ายังคงไกล ให้ฉันบินตาม
และยังดูเหมือนมีหวัง จะพบในสิ่งที่ตั้งใจ
เลยผ่านมาจนวันนี้ ก็ยังไปไม่ถึงไหน
ยิ่งบินไป ทำไมยิ่งไกลทุก ๆ ที

* และแล้วฉันเองก็ได้รู้ความจริง ว่าสิ่งที่เคยตามไปเสาะหา
มันเป็นแค่เพียงภาพลวงไม่อาจจะสัมผัสมันได้เลย

** ขอบฟ้าไม่มีจริง ไม่เห็นมีตัวตน ไม่อาจจะหาเหตุผล
ยิ่งคว้ายิ่งเหนื่อยยิ่งท้อใจ ที่อยากที่สุดตรงนี้
ต้องการแค่เพียงกิ่งไม้ เพื่อจะเกาะให้อบอุ่นใจเท่านั้นเอง

(ซ้ำ * , **) หวังว่าเธอจะเป็นกิ่งไม้ ได้ไหมเธอ

Wednesday, December 07, 2005

กอดฉัน



กอดฉัน : วารุณี สุนทรีสวัสดิ์

ไม่แพ้ก็ชนะ ธรรมดากฎเกณฑ์ เรานั้นเป็นผู้เล่น ยอมรับความเป็นจริง
ไม่ต้องการอย่าฝืน คืนรักเธอกลับไป เจ็บนี้ไม่โทษ ใคร ในเมื่อฉันเลือกเอง
รู้ว่าต้องตัดใจ ทั้งที่แสนจะทรมาน เขาคือปัจจุบัน ส่วนฉันนั้นเป็น อดีต
ฮื้อ..ฮื่อ ฮือ ฮือ..

กอด ฉันให้นานนานได้ ไหม เป็นสิ่ง สุดท้ายเพื่อ อำลา
ไม่ รั้งเธอไว้นานหรอกหนา แค่ทำ เป็นรัก ก่อนจาก กันไป
จะไม่ร้องไห้ ฉันขอสัญญา

กอด ฉันให้ นานนานได้ไหม เป็นสิ่ง สุดท้ายเพื่ออำลา
ไม่ รั้ง เธอไว้นานหรอกหนา แค่ทำ เป็นรัก ก่อนจาก กันไป
จะไม่ ร้องไห้ ฉันขอสัญญา จะไม่ ร้อง ไห้ ให้ เห็น น้ำ ตา

เอื้อมมือคว้า



เอื้อม..คว้าใจ ใส่ใจจด รสหวานกรุ่น
เอื้อม..คว้ารัก หอมละมุน อุ่นอกฉัน
เอื้อม..คว้าสุข ทุกคราวครวญ หวนถึงกัน
เอื้อม..คว้าฝัน วันคืนเฝ้า เงาคู่เคียง

ได้แต่คว้า หาไป เอื้อมไม่ถึง
ห่างใจจึง คว้าไขว่ ไร้แม้เสียง
ห่างตัว ห่างไกล ไร้สำเนียง
ฝากแต่เพียง เยื่อใย ไปกับลม

เพื่อนรัก


เพื่อนรัก
เธอรู้จักค่า"รัก" สักแค่ไหน
เคยหรือที่มอง "เรา" อย่างเข้าใจ
เคยไหมสักครั้ง...คนดี

Tuesday, December 06, 2005

ช่วยกันนับดาว



ว่า..สักวัน จะช่วยกันนับดวงดาว
เราจะบอกความกับฟ้าสีครามว่า
เราสองจะครองรักอยู่
มิรู้วันแหนงหน่าย ดั่งดาวคู่ฟ้าไกล..ไม่คลายรัก

จักรวาลใบไม้

 Posted by Picasa

เรียนรู้ชีวิต
กรรมลิขิตหรืออิสระในปรารถนา
ผิดหวังหรือสมหวังเป็นธรรมดา
อยู่ที่ว่าฝันใฝ่สิ่งใดกัน

จักรวาลใบไม้..เพียงใบ
สั่นไหวสะท้านสะเทือนถึงสวรรค์
อาณาจักรใจให้อัศจรรย์
..วิถีฝัน..วิถึชิวิต ลิขิตใคร


โดย : อิสตรีมาร
เมื่อเวลา : วันพุธ ที่ 30 พ.ย. ปี 2005

ตรงเส้นขอบฟ้า


หนังสือ "ตรงเส้นขอบฟ้า" ของ ดร. ปาริชาต สถาปิตานนท์

ชอบ....ชอบความหมายของคำว่า ... ตรงเส้นขอบฟ้า...
ที่บอกถึงความรู้สึกอ้างว้าง สูญเสีย และ..ห่างไกล
ประทับใจหนังสือเล่มนี้ ที่ผู้เขียนบอกว่า ท่านกลางสภาวะวิกฤต พบว่า
1. การมอง ว่า ความตายคือความเศร้าโศก ได้เปลี่ยนเป็น รอยยิ้มที่ได้หวนระลึก
ถึงวันเวลาที่เคยมีความสุขร่วมกัน
2. การควบคุมสติ แทนที่จะปล่อยใจให้จมอยู่กับ ห้วงความทุกข์
3. การทำงานเป็นทีมท่ามกลางความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
ประโยคที่กินใจ คือ ตรงเส้นขอบฟ้า ณ จุดเปลี่ยนแห่งกาลเวลานั้นงดงามจริงๆ
แสงสีต่างๆ ช่วยเติมพลังให้เป็นความหวัง เป็นกำลังใจในการลุ้นต่อไปว่า
" หลังจากนั้น จะมีอะไรที่งดงามติดตามมาบ้าง"

สุดยอดของความงดงาม...จริงๆ ประทับใจมากค่ะ....

Thursday, September 08, 2005

ดอกไม้งาม


ดอกไม้งาม .. ยามเจ้าแย้ม แซมโลกสวย
กลิ่นเจ้าช่วย จรุงจิต ชิดหรรษา
สีเจ้าสด อาบอิ่มใจ ในทิวา
ก่อนจากลา ร่วงหล่น บนผืนดิน

เจ้าก่อเกิด สร้างสุข ทุกถิ่นฐาน
ใครพบพาน เจ้ากล่อมให้ ใจถวิล
กระจายจรุง ปรุงขจร อ้อนรวยริน
งดงามสิ้น เป็นธรรมสอน ย้อนดูตน
http://www.rspg.org/index2.htm

Sunday, August 14, 2005

สอนใจ

สอนใจ

ไว้ให้ตัวเอง ………//

กำลังใจดี ๆ ให้ตัวเอง
ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า
แม้แต่คนที่โง่ที่สุดยังฉลาดในบางเรื่อง
และคนฉลาดที่สุด
ก็ยังโง่ในหลายเรื่อง

ไม่มีอะไรเสียเวลามากไปกว่า
การคิดที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต

ไม่เคยมีอะไรช้าเกินไป
ที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองฝัน

คนที่ไม่เคยหิว
ยอมไม่สามารถซาบซึ้งรสชาดของความอิ่ม
ความสำเร็จที่ผ่านความล้มเหลว
ย่อมหอมหวานกว่าเดิม

อันตรายที่สุดสำหรับชีวิตคนเรา คือ การคาดหวัง
อย่ายอมแพ้ถ้ายังไม่พยายามเต็มที่
เหตุผลของคน ๆ หนึ่งอาจจะไม่ใช่เหตุผลของอีกคนหนึ่ง
ถ้าคุณไม่ลองก้าว คุณจะไม่มีวันรู้เลยว่า
ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ปัญหาทุกอย่าง ล้วนขึ้นอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
หลังพายุที่ผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง

คนเรา
ไม่ต้องเก่งไปทุกอย่าง
แต่จงสนุกไปกับงานทุกชิ้น …..ที่ได้ทำ

หัวใจของการเดินทาง ไม่ใช่อยู่ที่จุดหมาย
หากอยู่ที่ประสบการณ์สองข้างทาง……มากกว่า

คนฉลาดผ่านวันไม่ดี…….ด้วยดี

ท่านนันยางส่งมาให้ ... ดีจังเนอะ


วันหยุด..วันแม่ปีนี้

love

เรา พี่ชาย แม่ รวม 3 คน
เดินทางจาก กทม. ด้วยรถไฟ มาถึงหาดใหญ่มาเยี่ยมน้องชายไม่สบาย
มาตรัง ดูที่ทาง วันจันทร์โอนที่กันอีก ไม่รู้เสร็จเมื่อไร
แล้วจะไปสุราษฎร์ จะไปเที่ยวแต่ติดโอนที่ซะแล้ว
สงสัยไม่ได้เที่ยวซะแล้ว พี่วาสิน..เอ๊ย เสียดายจัง

แต่คืนนี้ จะโทรหาท่านกู่ฯ คอยรับโทรศัพท์นะ
พรุ่งนี้เป็นไปได้ จะแวะหา อิ อิ
ยังไม่ 100 ปูเซ็งนะจ๊า
ต้องถามคนขับรถก่อน
เช่ารถจากหาดใหญ่ จะไปคืนรถที่สุราษฎร์
สะดวกดีเนอะ.....

Monday, August 08, 2005

วันดีดี


love

อยากลืมตาตื่นขึ้นมา..ในยามเช้า
พบแต่ ... วันดี ดี
วันที่ทุกคนยิ้มให้กันตลอด วันที่หัวเราะไม่หยุด (คงเหนื่อยเนอะ)
วันที่นกร้องเพลง วันที่ฟ้าสดสวย
วันที่อากาศเย็นสบาย วันที่โลกสดใส
วันที่สุขภาพแข็งแรง วันที่มีเงินใช้
วันที่คนที่เรารักเคียงข้างเรา
จับมือเรา
แล้วบอกว่า...เราจะรักกันตลอดไป....

Thursday, August 04, 2005

การเปลี่ยนมุมมองเพื่อชีวิตที่เปลี่ยนไป : August 2005

love: August 2005



การเปลี่ยนมุมมองเพื่อชีวิตที่เปลี่ยนไป
ได้อ่านบทความนี้ แล้วเห็นด้วยอย่างมากกกกกก
อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ลองอ่านดูสิ หรือแวะอ่านฉบับเต็มก็ได้
ที่ address ข้างล่าง....


คงมีหลายครั้งที่คุณรู้สึกเศร้าสร้อยน้อยใจ เฝ้าบ่นในใจว่า "ทำไมเขาไม่เข้าใจเราเลย"
ไม่ว่าเขา (หรือเธอ) คนนั้นเป็นเพื่อนหรือคู่รักของคุณก็ตาม
การตอกย้ำกับตัวเองด้วยความคิดอย่างนี้ บางทีก็ไม่ได้ ช่วยอะไรเลย
นอกจากตัวเองจะทุกข์แล้ว ยังอาจหมางเมินเขามากขึ้น ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงไป อีก
ลองเปลี่ยนมุมมองหรือตั้งคำถามใหม่สิว่า "แล้วเราล่ะ เข้าใจเขาบ้างหรือเปล่า"

การถามแบบนี้อาจช่วยให้เราพบสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาก็ได้
เพราะอันที่จริง เราเองก็คงไม่ได้เข้า ใจเหมือนกัน
สัมพันธภาพของผู้คนมักมีปัญหาก็เพราะทุกคนคิดแต่จะเรียกร้องให้คนอื่นเข้าใจตนเอง
แต่ไม่พยายามหรือ แม้กระทั่งคิดที่จะเข้าใจคนอื่น ถึงตรงนี้ คำถามไม่ได้อยู่ที่ว่า
"ทำไมเขาไม่เข้าใจเรา" แต่อยู่ที่ " ทำไมเราถึงไม่เข้าใจเขา" และ"ทำอย่างไร เราถึงจะเข้าใจเขาได้"
ในทำนองเดียวกัน สำหรับคนที่ชอบบ่นในใจว่า "ทำไมฉันถึงซวยอย่างนี้" หากเปลี่ยนมาถามตัวเองว่า
"ทำไมฉันชอบบ่นอย่างนี้" เขาอาจได้คิดและลุกขึ้นมาสู้ใหม่ ไม่ทดท้อหรืองอมืองอเท้าเหมือนเก่า

มีคำถามหนึ่งซึ่งคุณหมอประเวศ วะสี บอกว่า เป็นคำถามที่น่าเกลียดที่สุด
แต่เป็นคำถามที่กำลังระบาด ไปทั่วสังคมไทย นั่นก็คือ คำถามว่า "ทำแล้วฉันจะได้อะไร"
คำถามอย่างนี้ทำให้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น ทำให้จิตใจแคบลง และหาความสุขได้ยาก
จะไม่ดีกว่าหรือ หากเราถามใหม่ว่า "ทำแล้วส่วนรวม (หรือสังคม) จะได้อะไร"

อย่างไรก็ตาม คงไม่มีคำถามใดสำคัญเท่ากับคำถามเกี่ยวกับชีวิตจิตใจของเราเอง

ตัดทอนมาจาก
http://love4home.com.www.readyplanet.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=145322&Ntype=6